แคนนอน เผยสุดยอดเทคโนโลยี ‘MR System’ สร้างมิติใหม่ให้งานออกแบบไร้ขีดจำกัด
เชื่อมโยงโลกเสมือนเข้ากับสภาพแวดล้อมจริงได้อย่างแนบเนียน
บริษัท แคนนอน ไอที โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย ) จำกัด ผู้นำเทคโนโลยีอิมเมจจิ้งระดับโลก เผยสุดยอดเทคโนโลยี ‘ระบบมิกซ์ เรียลลิตี้ หรือ Mixed Reality (MR) System’ ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกที่งานเมทัลเลกซ์ 2013 โดยระบบมิกซ์ เรียลลิตี้ หรือระบบ MR นี้เป็นเครื่องมือสำหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงภาพในโลกเสมือนเข้ากับสภาพแวดล้อมจริงที่ตามองเห็นได้อย่างแนบเนียน พร้อมแสดงเป็นภาพสามมิติในขนาดเท่าของจริงให้ผู้ใช้ที่สวม Head-Mounted Display (HMD) ของแคนนอนสามารถมองเห็นและตอบโต้กับวัตถุได้จากทุกมุมมอง ช่วยลดขั้นตอน ประหยัดเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์
นายฮิเดซาโตะ โคดามะ ประธานบริษัทแคนนอน ไอที โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงการเปิดตัวระบบ MR ครั้งนี้ว่า “ปัจจุบันวงจรอายุของผลิตภัณฑ์ทุกชนิดล้วนมีแนวโน้มที่สั้นลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่อุตสาหกรรมการผลิตจะต้องสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดได้อย่างเหมาะสมและทันเวลา ระบบมิกซ์ เรียลลิตี้ หรือระบบ MR ของแคนนอนทำให้ผู้ใช้มองเห็นภาพ CG (Computer-generated) รวมเข้ากับสภาพแวดล้อมจริง โดยไม่ว่าผู้ใช้จะอยู่ในตำแหน่งหรือกำลังเคลื่อนที่ในทิศทางใดก็สามารถเห็นเป็นภาพแบบสามมิติในขนาดเท่าของจริงและตอบโต้กับผู้ใช้ได้จากทุกมุมมอง ทำให้ผู้ใช้สามารถประเมินผลงานการออกแบบและประสิทธิภาพการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ช่วยลดจำนวนการสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบ และยังช่วยประหยัดเวลาในขั้นตอนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ช่วยลดต้นทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์”
“แคนนอนได้เลือกเปิดตัวระบบ MR System ในประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักคือ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งประเทศไทยเป็นฐานผลิตที่ใหญ่และมีศักยภาพแห่งหนึ่งของเอเชีย โดยระบบ MR System จะอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของบริษัท แคนนอน ไอที โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายและพัฒนาระบบ MR ทั้งนี้ราคาของระบบ MR จะแตกต่างกันไปตามองค์ประกอบและความซับซ้อนของระบบ โดยจะมีการออกแบบโปรแกรมตามความต้องการและลักษณะการใช้งานของลูกค้าแต่ละรายโดยเฉพาะ แคนนอนและลูกค้าจะออกแบบและพัฒนาโปรแกรมไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้ระบบ MR เป็นประโยชน์และเอื้อกับการทำงานของลูกค้าได้มากที่สุด”
ระบบมิกซ์ เรียลลิตี้ หรือ Mixed Reality (MR) System คือ เทคโนโลยีการประมวลผลภาพที่สามารถรวมโลกจริงและโลกเสมือนเข้าได้ด้วยกันได้อย่างแนบเนียน จึงเกิดเป็นภาพที่มีรายละเอียดชัดเจนของสภาพแวดล้อมจริงบวกกับภาพ CG ที่สามารถสร้างและเปลี่ยนแปลงได้ตามต้องการ จึงมอบประสบการณ์การสร้างสรรค์ภาพที่ก้าวล้ำไปกว่าเทคโนโลยี VR (Virtual Reality) ที่ทำได้เพียงการสร้างภาพสภาพแวดล้อมโดยใช้ CG เท่านั้น ทั้งนี้ยังแตกต่างจากเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ที่ปัจจุบันใช้อยู่ในวงการเกมส์ โฆษณาและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ตรงที่ภาพที่เกิดจาก AR จะเป็นการวางซ้อนภาพ CG บนสภาพแวดล้อมจริงเท่านั้น แต่ภาพจากระบบ MR จะทำให้ผู้ใช้มองเห็นภาพ CG ขนาดเท่าของจริงในสภาพแวดล้อมจริงจากทุกมุมมองได้อย่างไร้รอยต่อ จึงทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนกับภาพ CG นั้นมีอยู่จริง ยิ่งกว่านั้นระบบ MR ยังสามารถออกแบบให้ผู้ใช้โต้ตอบกับภาพเสมือนได้ โดยจะมีไม้เซ็นเซอร์ใช้ถือเพื่อรับการเคลื่อนไหวของมือ และเลือกชิ้นส่วนที่ต้องการโต้ตอบได้ตามโปรแกรมที่ตั้งเอาไว้
การทำงานของระบบ MR นั้นเริ่มจากกล้องวิดีโอสองตัวที่ติดอยู่บน Head-Mounted Display (HMD) หรืออุปกรณ์แสดงภาพที่ผู้ใช้ต้องสวมครอบอยู่บนศีรษะ กล้องวิดีโอสองตัวนี้จะอยู่ที่ด้านหน้า ทำหน้าที่จับภาพจริงที่ตามองเห็นเพื่อส่งไปยังคอมพิวเตอร์ ณ ตำแหน่งที่กำหนดให้มีภาพ CG เกิดขึ้นจะมีเครื่องหมายในกรอบสี่เหลี่ยมวางอยู่ตามจุด โดยระบบจะคำนวณและวัดตำแหน่งของผู้ใช้จากเครื่องหมายที่กล้องสองตัวนั้นจับภาพได้รวมกับข้อมูลตำแหน่งของผู้ใช้จากเซ็นเซอร์ที่ติดอยู่บน HMD ซึ่งระบบจะทำการจัดเรียงตำแหน่งที่ถูกต้อง และแสดงภาพจริงที่รวมเข้ากับภาพเสมือนบนจอขนาดเล็กใน HMD ภาพที่แสดงอยู่บนจอขนาดเล็กนั้นจะถูกขยายให้ชัดเจนขึ้นด้วยปริซึมทรงอิสระ (Free-form Prism) ที่สามารถเปลี่ยนรูปทรงได้ ทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับภาพสามมิติที่มีความคมชัดและมีขนาดสมจริงมากที่สุด
นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน ในประเทศญี่ปุ่นมีผู้ซื้อระบบ MR ของแคนนอนไปใช้แล้วมากกว่า 20 ยูนิต โดยลูกค้าเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง รวมถึงสถาบันวิจัยในมหาวิทยาลัย ซึ่งได้นำระบบ MR ไปใช้ในการตรวจสอบการออกแบบ ทดสอบสถานที่ผลิต และแสดงผลการวิเคราะห์ โดยได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งในเรื่องของตัว HMD ที่มีความสมบูรณ์ระดับสูง และคุณภาพของภาพ กล่าวคือ เกิดการเหลื่อมของภาพน้อยมากทำให้ภาพมีความสมจริง ไม่ทำให้เกิดอาการเวียนหัว และยังสามารถนำไปใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่ได้ง่ายอีกด้วย
นอกเหนือจากงานออกแบบผลิตภัณฑ์แล้ว ระบบ MR ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย อาทิ สามารถนำไปใช้ในงานออกแบบการวางผังเครื่องจักรในอุตสาหกรรมการผลิตให้มีประสิทธิภาพและให้ประสิทธิผลที่สูงที่สุด โดยผู้สามารถเดินชมโรงงาน ดูสายการผลิต และระบบความปลอดภัยที่ออกแบบไว้ได้ หรือนำไปใช้ในงานออกแบบตกแต่งภายใน ให้ลูกค้าสามารถเห็นแบบบ้านได้อย่างสมจริงมากที่สุด หรือแม้แต่ในพิพิธภัณฑ์ระบบ MR ก็สามารถทำให้การจัดแสดงมีความน่าสนใจและโต้ตอบกับผู้ชมได้ แคนนอนยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายการใช้งานระบบ MR ให้กว้างขึ้น
จากเว็บ http://www.usa.canon.com/cusa/office/products/hardware/mixed_reality
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น